วันนี้ (22 ก.ย.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์
ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
กล่าวถึงกรณีที่ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอให้
สมศ.กำหนดตัวบ่งชี้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ ในการประเมินคุณภาพภายนอกว่า
สมศ.ได้บรรจุค่านิยมหลักของคนไทย 12
ประการไว้ในตัวบ่งชี้ของการประเมินคุณภาพภายนอกอยู่แล้ว
ตั้งแต่การประเมินฯรอบสาม ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในด้านคุณภาพศิษย์
ตัวบ่งชี้ที่ 1 ผู้เรียนเป็นคนดี
โดยพิจารณาตัวผู้เรียนในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า มีน้ำใจไมตรี มีจิตอาสา
และมีการพัฒนาคุณธรรมด้านต่างๆ เช่น วินัย สติ กตัญญู เมตตา อดทน ซื่อสัตย์
ประหยัด ขยัน ไม่เห็นแก่ตัว ผ่านการทำงาน ทำกิจกรรม และการบำเพ็ญประโยชน์
ซึ่งในการประเมินฯรอบสี่ สมศ.จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้เข้มข้นมากขึ้น
และจะกำหนดไว้ในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาเป็นครั้งแรกด้วย
เพราะที่ผ่านมาใช้ประเมินแต่ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น
“หลัง จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ทาง สมศ.ได้นำเกณฑ์ และตัวบ่งชี้ของการประเมินคุณภาพภายนอกมาพิจารณาว่ายังขาดเรื่องใดบ้าง ซึ่งเราก็เติมลงไป โดยกระจายไปยังตัวบ่งชี้ต่างๆ จนครบทั้งหมดแล้ว เช่น ตัวบ่งชี้ที่ 4 ผู้เรียนมีทักษะชีวิต ใฝ่เรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 15 การส่งเสริมสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม” ผอ.สมศ. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการนำค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการมาบรรจุไว้ในตัวบ่งชี้การประเมินฯ จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กสำนึกในความเป็นคนดีมากขึ้น แต่จะได้ผลมากหรือน้อยคงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และสถาบันการศึกษา ซึ่งหากสถาบันการศึกษาพยายามส่งเสริม และกระตุ้นเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง รวมทั้งทำตลอดเวลา ไม่ใช่ทำแค่ฉาบฉวย หรือรอการประเมินฯ เท่านั้น ตนคิดว่าจะทำให้ได้ผลที่ดี และรวดเร็วมากขึ้น.
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์
“หลัง จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ทาง สมศ.ได้นำเกณฑ์ และตัวบ่งชี้ของการประเมินคุณภาพภายนอกมาพิจารณาว่ายังขาดเรื่องใดบ้าง ซึ่งเราก็เติมลงไป โดยกระจายไปยังตัวบ่งชี้ต่างๆ จนครบทั้งหมดแล้ว เช่น ตัวบ่งชี้ที่ 4 ผู้เรียนมีทักษะชีวิต ใฝ่เรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 15 การส่งเสริมสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม” ผอ.สมศ. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการนำค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการมาบรรจุไว้ในตัวบ่งชี้การประเมินฯ จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กสำนึกในความเป็นคนดีมากขึ้น แต่จะได้ผลมากหรือน้อยคงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และสถาบันการศึกษา ซึ่งหากสถาบันการศึกษาพยายามส่งเสริม และกระตุ้นเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง รวมทั้งทำตลอดเวลา ไม่ใช่ทำแค่ฉาบฉวย หรือรอการประเมินฯ เท่านั้น ตนคิดว่าจะทำให้ได้ผลที่ดี และรวดเร็วมากขึ้น.
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น